ที่มา : หนังสือเคล็ดลับพัฒนาตนเองเพื่อความสำเร็จก้าวหน้า
แน่นอนว่าเราจะต้องเคยเรียนรู้และรู้จักบุคคลที่มีความอัจฉริยะอยู่ในตัว จนทำให้ชื่อเสียง
ขจรขจายไปทั่วโลกกันมาบ้างแล้ว บุคคลเหล่านั้นก็อย่างเช่น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ วิลเลียม
เช็คสเปียร์ เพลโต และอื่น ๆ อีกมากมาย ชื่อเสียงของคนเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่า แม้
ตัวตายไปหลายร้อยปีแล้ว แต่ชื่อเสียงและคุณความดีก็ยังคงปรากฏอยู่ตราบจนถึงปัจจุบัน
และจะมีต่อไปอีกนานเท่านาน
การที่เขามีความเป็นอัจฉริยะอยู่ในตัวนั้น แน่นอนว่าเขาจะต้องมีอะไรที่ดีกว่าคนอื่นอย่าง
แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นความพากเพียรหรือว่ามันสมองอันปราดเปรื่อง แล้วเราล่ะ อยากเป็น
อย่างพวกเขาบ้างหรือเปล่า
การก้าวขึ้นมามีชื่อเสียงระัดับโลกได้นั้น แน่นอนว่าจะต้องมีปัจจัยหลาย ๆ อย่าง แม้ว่า
เราจะไม่สามารถจะเป็นได้อย่างไอน์สไตน์หรือว่าคนอื่น ๆ แต่เราก็สามารถมีความเป็น
อัจฉริยะ และสามารถแสดงให้เห็นได้ในแวดวงและคนรอบข้างของเรา โดยมีข้อแนะนำ
ดังนี้
1 ความเพียรที่ได้ผล ถ้าเราได้ลองอ่านประวัติของบุคคลที่ประสบความสำเร็จจะเห็น
ได้ว่า เขาทั้งหลายมีความพากเพียรพยายามไม่ท้อต่ออุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซ้ำพยายาม
มากขึ้นหากยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการ แน่นอนว่าการพยายามทำอะไรอย่างหนัก จะทำให้
เราได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ และสามารถแสดงความสามารถของเราออกมาได้อย่าง
ไม่ต้องกลัวเกรงได้เหมือนกัน
ิ 2 คิดและทำ เคยเจอคนประเภทชอบพูดแต่ไม่ชอบทำไหมแน่นอนว่ามีมากในสังคม
ของเรา พูดอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอถึงเวลากลับไม่ยอมทำอะไรสักอย่ง บุคคลที่มีความ
เป็นอัจฉริยะอยู่ในตัวหรือคนที่อยากจะเป็น จะต้องคิดและลงมือทำเพื่อให้เกิดผล ไม่ว่า
คิดอะไรต้องลองดู เพื่อที่จะได้รู้แจ้งเห็นจริง และเกิดความเชี่ยวชาญต่อการลองผิดลอง
ถูำกนั้น ๆ
3 อัจฉริยะฝึกฝนกันได้ อย่าไปคิดว่าของอย่างนี้มีมาตั้งแต่กำเนิด เราไม่สามารถทำ
ได้ มีนักวิทยาศาสตร์ นักคิด นักเขียนหลายคนที่เคยล้มเหลว ล้มลุกคลุกคลานมาโดย
ตลอด แต่ในท้ายที่สุดเขาเหล่านั้นก็ประสบความสำเร็จ ความเป็นอัจฉริยะของบางคน ก็ใช่
ว่าจะมีมาตั้งแต่กำเนิด แต่พวกเขาได้ผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก ปรับปรุงแก้ไขอยู่เสมอ จน
กระทั่งพวกเขาประสบความสำเร็จได้อย่างงดงาม
4 สร้างสิ่งที่เพ้อฝันให้เป็นจริง หากเราคิดแล้ว ไม่ใช่แค่เพ้อมองอย่างเดียว แล้วไม่
ลงมือทำอย่างที่คิด เพราะการที่คิดเพ้ออย่างเดียวก็ไม่ต่างอะไรกับการนอนหลับ แล้วฝัน
ไปวัน ๆ คนที่เป็นอัจฉริยะ แน่นอนว่าเขาจะต้องมีจินตนาการสูง และคนเหล่านั้นก็สามารถ
จับจินตนาการเหล่านั้นให้กลายเป็นของจริง อย่างโทมัส เอดิสัน เขาสามารถผลิตหลอดไฟ
ได้ืทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นไม่มีแม้แต่ไฟฟ้าตามบ้าน หรือจะเป็นเกรมเบลล์ที่สามารถผลิตโทรศัพท์
ได้สำเร็จ
ความเป็นอัจฉริยะนั้นเราสามารถฝึกฝนได้ แม้ว่าจะไม่สามารถมีชื่อเสียงก้องโลกได้
แต่ความเป็นอัจฉริยะของเราจะฉายแววเด่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ทำงานร่วมกับผู้อื่น
8/25/10
8/23/10
ตักเตือนตัวเองเสียบ้าง
ที่มา: หนังสือเคล็ดลับพัฒนาตนเองเพื่อความสำเร็จก้าวหน้า
หลาย ๆ ครั้งที่เรามัวแต่ไปเตือนคนอื่นให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้
โดยลืมที่จะตักเตือนตัวเองเสียบ้าง ทำให้เราทำอะไรผิดพลาดไปมากมาย
ทั้ง ๆที่เราเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นเช่นนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว การเตือน
ตัวเองเป็นเรื่องของจิตใต้สำนึก หากว่าจิตสำนึกของเรามีพลัง
เราก็จะสามารถเตือนตัวเราเองได้อย่างได้ผลมากยิ่งขึ้น เราจึงต้องรู้จัก
สร้างพลังในการเตือนตัวเอง
การที่เราเตือนตนเองอยู่ตลอดเวลา จะทำให้เรามีความมุ่งมั่นในจิต
และก็สามารถแสดงออกไปทางบุคลิก คำพูด ท่าทาง การเตือนตัวเองที่
ได้ผลจะต้องทำอย่างต่อเนื่อง ซ้ำกันทุกวันไม่มีขาดหรือว่างเว้นอย่าง
เด็ดขาด เพราะหากเว้นไปเพียงวัน พลังใจของเราจะลดลงเกือบครึ่งเลยทีเดียว
มีคนบอกเอาไว้ว่า ชีวิตของเราจะเป็นไปตามที่เราคิด ดังนั้นเราจึง
ควรเริ่มต้นด้วยการเตือนตัวเอง และทำตามอย่างที่เราคิดแล้วทุกอย่าง
ก็จะดีขึ้นเอง
วิธีที่ดีที่สุดของการเตือนตนเอง คือต้องเตือนตัวเองในเวลากลางคืน
เพื่อที่ตื่นเช้ามาจะได้ทำตามที่ต้องการได้อย่างไม่ยากลำบาก
มีวิธีการดังนี้
1 ควรออกกำลังกายสัก 10นาที การออกกำลังกายจะทำให้ลดความ
เครียดจากการทำงานได้เป็นอย่างดี ทำให้เรารู้สึกสดชื่น ไม่ว่าวันนี้นทั้งวันเรา
จะต้องเผชิญกับอะไรมาบ้างก็ตาม
2 เมื่อจะนอนให้สวดมนต์ การระลึกถึงอะไรที่บริสุทธิ์ขาวสะอาด
จะทำให้เรามีจิตใจที่แจ่มใสตามไปด้วย
3 ตอนล้มตัวลงนอนให้คิดว่าเราจะผ่อนคลายทุกสิ่งทุกอย่างให้ร่างกาย
ของเราปราศจากความเครียดใด ๆ เพราะหากว่าตอนเรากำลังจะนอนแล้ว
ยังเคร่งเครียดอยู่ ความเครียดจะติดตามเราไปถึงรุ่งเช้า
4 พูดเตือนตัวเองย้ำ ๆ ก่อนที่จะหลับ อาจจะพูดจนเราหลับไปเลยก็ได้
จะทำให้ความต้องการของเราฝังลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึกของเรา
5 ในตอนเช้า พอตื่นขึ้นมาก็ให้พูดกับตัวเองถึงคำเตือนที่เราท่องเอาไว้
ตั้งแต่เมื่อคืนอีกครั้ง
6 ว่างจากการทำงานก็หมั่นเตือนตัวเองในข้อด้อยของตัวเองหรือข้อที่
อยากจะปรับปรุง เช่น เราเป็นคนขี้อาย ก็บอกกับตัวเองว่าเราจะต้องเชื่อมั่น
ในตนเอง เป็นต้น
7 หากเจอปัญหาก็ให้ใจเย็น ๆ แน่นอนว่าเวลามีปัญหาเราย่อมจะต้องร้อนใจ
แต่ก็พยายามทำใจให้เย็นลงมา และเชื่อมั่นในตัวของเราเองว่าจะสามารถ
ผ่านพ้นปัญหาเหล่านั้นไปได้ด้วยดี แล้วความเชื่อมั่นตัวนี้นี่เองก็จะพาเราไปสู่การ
แก้ไข และไขไปสู่ความสำเร็จ
8 ยามใดที่เราเตือนตัวเอง ต้องมั่นใจว่าเวลานั้นเราไม่มีความเครียดหลง
เหลืออยู่ เพราะหากเรามีความเครียดอยู่ จะทำให้การเตือนของเราไม่ได้ผล
เท่าที่ควร เราควรทำจิตใจให้ผ่อนคลายก่อนที่จะพูดเตือนอะไรกับตัวเอง
9 ดูสิว่าเราทำได้อย่างที่ตั้งใจหรือเปล่า แน่นอนว่าบางครั้ง เราอาจจะเผลอ
ลืมตัวไม่สามารถทำตามที่เราตั้งใจเอาไว้ได้ ดังนั้นการดูว่าตัวเราทำได้อย่าง
ที่ตั้งใจไหมเป็นเรื่องจำเป็น เพราะหากว่าเราเผลอทำอะไรที่ไม่ตรงตามความ
ตั้งใจออกไป เราก็จะสามารถแก้ไขได้ ไม่ใช่ปล่อยปละเลยตามเลย
การเตือนตัวเองเป็นประจำเป็นเรื่องดี เพราะไม่มีใครที่จะเตือนเราได้ดี
เท่ากับตัวเราเองอีกแล้ว เพราะเราจะเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าเรากำลังทำอะไรอยู่
Subscribe to:
Posts (Atom)
-
ที่มาหนังสือ: นิพพานนอกวัด/ผู้แต่ง:พระอาจารย์วิเชียร วชิรปัญโญ วันนี้มีหนังสือมาแนะนำอีกเช่นเคย คิดว่าสำหรับผู้ที่ยังทำงาน มีครอบครั...
-
เรื่อง หนังสือwellfit เรามีเงินไว้ซื้อความสุข หรือซื้ออะไรก็ได้เพื่อให้รู้สึกดี ๆ ราคาที่เราจ่ายไปเพื่อความสุขและความภูมิใจนั้นแพงกว่าที่...
-
การอยู่เฉยๆ ทำตัวนิ่ง แบบ คนว่างงานนั้น มีประโยชน์อยู่มากมายอะไรบ้าง มาดูกันเลย ได้คุณภาพของงาน...