1 ทำให้รักษาคุณงามความดี เดิมไว้ได้
2 ทำให้สร้างคุณงามความดี ใหม่ได้อีก
3 ทำให้เกิดสติไม่ประมาท
4 ทำให้เกิดหิริโอตตัปปะ
5 ทำให้เกิดขันติ
ุ6 ทำให้จิตผ่องใส มองโลกในแง่ดี
7 ทำให้เป็นที่สรรเสริญ
8 ทำให้คนอยากคบหาสมาคม
9 ทำให้มนุษย์และเทวดา อยากช่วยเหลือ
10 ทำให้ไม่มีเวรไม่มีภัย
11 ทำให้ลาภยศทั้งหลายเกิดขึ้นโดยง่าย
12 ทำให้บรรลุมรรคผลนิพพานโดยง่าย
พระธรรมสิงหบุราจารย์
12/13/10
11/25/10
โรคเสียดายหนังสือกำเริบ
เพื่อน ๆเคยบ้างไหมคะหนังสือที่เราไม่ได้หยิบมาอ่านเราก็ไม่เคยจะคิดถึงมันแต่พอนึกขึ้นมาได้ว่ามันหายไปก็แทบจะพลิกบ้านหาเลย มีใครเป็นเหมือนกันบ้างเอ่ย
วันนี้ขายหนังสือได้ 2 เล่ม แต่ก็เป็นอาการเดิมคือ กลัวคิดถึงมันทั้ง ๆที่เวลามันวางอยู่ที่บ้านก็ไม่เคยจะนึกถึงว่าวางอยู่ตรงไหน แต่พอมันจะไปอยู่กับคนอื่นก็กลับเสียดาย แต่เราก็รู้สึกดีตรงที่มันจะได้ไปอยู่กับเจ้าของคนใหม่ที่ต้องการมันอย่างแท้จริง เห็นคุณค่าของมันเหมือนเมื่อครั้งหนึ่งที่เราอยากจะได้มันมามากมาย แล้วสุดท้ายก็นอนแอ้งแม้งให้ฝุ่นเกาะอยู่มุมหนึ่งของบ้าน
งั้นวันนี้จะเล่าบางส่วนของหนังสือที่กำลังจะขายให้ฟังแล้วกัน เอาที่ดูน่าสนใจดีกว่า
อ้อ ลืมไปหนังสือชื่อ คู่มือโน้มน้าวใจคน
เรื่อง กฏแห่งความมีศักยภาพและความเป็นเลิศ (Law of Power)
คนเรานั้นอาจมีศักยภาพหรือมีความสามารถพิเศษที่มากกว่าคนอื่นจนถึงระดับที่พวกเขาถูกมองว่ามีความน่าเชื่อถือ มีความแข็งแกร่ง หรือมีความเชี่ยวชาญที่เหนือกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ
คนที่มีศักยภาพในตัวเองสูงนั้นมาพร้อมด้วยความน่าเชื่อถือและมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถดึงดูดใจผู้อื่นได้ ความมีศักยภาพคือความสามารถในการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งยังเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงและเป็นไปตามการรับรู้ ลูกค้าจะรับรู้ว่าคุณมีศักยภาพในตัวเองมากขึ้น ถ้าคุณแสดงพฤติกรรมด้วยความเชื่อมั่นแต่ไม่ใช่ความหยิ่งทะนง การมีท่าทีสบาย ๆ แต่ไม่ใช่การไม่เอาใจใส่ การมีความมั่นใจในตัวเอง แต่ไม่ใช่การแสดงตัวว่ารู้ไปเสียทุกอย่างความมีศักยภาพเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวคุณ และคุณจะต้องปลดปล่อยมันออกมา เมื่อใดก็ตามที่คนรับรู้ว่าคุณเป็นคนเก่ง มีความสามารถ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความรอบรู้ และมีความมั่นใจในตัวเอง แน่นอนว่าระดับความเชื่อมั่นของเขาที่มีต่อตัวคุณก็จะสูงขึ้น
ถ้าคุณพยายามใช้ศักยภาพ หรือความสามาถพิเศษที่คุณมีเหนือคนอื่น แทนที่จะใช้มันเพื่อพวกเขา คุณก็จะสูญเสียกายขาย รวมทั้งเพื่อนของคุณด้วย ศักยภาพหรือความสามารถพิเศษในตัวคุณนั้นจะถูกรับรู้โดยคนส่วนใหญ่ว่าเป็นพลังบางอย่างที่มีอยู่ในตัว และมักจะเรียกกันว่า ผู้ที่มีความเป็นเลิศ หรือมีพรสวรรค์ ซึ่งก็คือ คนที่มีความสามารถและมีคุณลักษณะหรือมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถดึงดูดใจและทำให้ผู้อื่นเลื่อมใส ศรัทธา และยอมรับได้ ศักยภาพ หรือพรสวรรค์ที่คุณมีนั้นโดยปกติมักจะไม่ได้รับการยอมรับและคนมักไม่ค่อยจะยอมปฏิบัติตาม ถ้าพวกเขาคิดว่าคุณกำลังพยายามที่จะข่มพวกเขาอยู่
ในงานวิจัยงานหนึ่งเมื่อเร็ว ๆนี้ ที่พูดถึงเรื่องความมีศักยภาพและความน่าเชื่อถือนั้น ได้เปิดเผยว่า 95% ของพยาบาลทั้งหมดเต็มใจที่จะจ่ายยาให้กับคนไข้หลังจากที่ได้รับการสั่งจากหมอ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า ยานั้นอาจจะทำให้คนไข้ตาย นั่นแหละคือ การมีศักยภาพ และความน่าเชื่อถือ
เมื่อคุณขายสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่ง คนจะทึกทักว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ ถ้าคุณรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับสินค้าของคุณ คุณก็จะเป็นคนที่ใคร ๆก็จะมาหา ขอใหทำให้ลูกค้าของคุณรู้โดยนัยว่า คุณเป็นสุดยอด หรือเป็นหนึ่งในสุดยอดบริษัทชั้นนำ คนโดยทั่วไปชอบที่จะติดต่อกับบริษัทชั้นนำเสมอ
ช่างซ่อมรถยนต์อาจจะดูเหมือนคนที่ไม่มีศักยภาพ และมีความน่าเชื่อถือมากสักเท่าไหร่นัก แต่เวลาที่รถคุณเสีย พวกเขาก็จะกลายเป็นคนที่มีศักยภาพและมีความน่าเชื่อถือมากที่สุดในโลก พวกเขามีทางแก้ปัญหาให้คุณ ถ้าพวกเขาทำให้การแก้ปัญหาดูเป็นเรื่องง่าย พวกเขาก็จะดูไม่มีศักยภาพและความน่าเชื่อถือ ข้อเท็จจริงง่าย ๆ ที่ว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงไม่ค่อยได้ใส่ใจกับวิธีการใช้ศักยภาพและความเป็นเลิศ หรือใช้พรสวรรค์ที่ตนเองมี นั่นก็คือ เหตุผลเดียวกับที่ทำให้พวกเขาหลายคนถูกมองว่าเป้นพวกทีชอบสร้างปัญหานั่นเอง
จบแล้วจ้า
จริง ๆ อยากจะเขียนเรื่องอื่นต่อนะแต่กลัวหนังสือยับน่ะ เพราะเดี๋ยวต้องส่งให้เขาแล้ว
คราวหน้าจะเอารูปกองหนังสือที่บ้านมาให้เพื่อนดูกันนะคะ ว่ามันแยะจนอ่านไม่ไหวเลยจริง ๆ
11/22/10
กายานุปัสสนาสติปัฎฐาน
คือ การรู้สภาพของกายในขณะนั้นว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ว่ากายจะยืน กายจะเดิน กายจะนั่ง กายจะนอน จะพักผ่อนอันใดมีสติควบคุม จิตต้องกำหนด กำหนดกายยืน กำหนดกายนั่ง กำหนดกายนอน กำหนดกายที่จะเอนลงไปต้องกำหนดทุกอิริยาบถ จะก้าวเยื้องซ้ายและขวาไปที่ไหนกำหนดตั้งสติไว้ให้เป็นปัจจุบัน
กำหนด แปลว่า ความรู้ของชีวิตอันมีสติควบคุมเช่น ก่อนจะเดินให้สำรวมจิตอยู่ที่เท้าขวา ตั้งสติปักลงไป แล้วกำหนดในใจคำว่าขวา ให้ยกส้นเท้าขวาขึ้น ตั้งสติระลึกรู้พร้อมกับส้นเท้าขวาที่ยกขึ้นก้าวท้าวขวาไปข้างหน้า สติระลึกรู้พร้อมกับส้นเท้าขวาที่เคลื่อนไปข้างหน้า หนอวางเท้าลงถึงพื้น ปลายเท้าและส้นเท้าลงพร้อมกัน สติระลึกรู้พร้อมกับเท้าที่ลงสัมผัสพื้น หรือจะหยิบสิ่งของอะไร ก็ให้สำรวมจิตอยู่ที่มือข้างที่จะหยิบ ตั้งสติปักลงไปที่มือข้างที่จะหยิบสิ่งของอะไร ก็ให้สำรวมจิตอยู่ที่มือข้างที่จะหยิบ ตั้งสติปักลงไปที่มือข้างที่จะหยิบนั้นแล้วกำหนดในใจว่า หยิบหนอ หยิบหนอ สติระลึกพร้อมกับมือข้างที่กำลังหยิบของสิ่งนั้น เป็นต้น
จากหนังสือ: หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมโม
กำหนด แปลว่า ความรู้ของชีวิตอันมีสติควบคุมเช่น ก่อนจะเดินให้สำรวมจิตอยู่ที่เท้าขวา ตั้งสติปักลงไป แล้วกำหนดในใจคำว่าขวา ให้ยกส้นเท้าขวาขึ้น ตั้งสติระลึกรู้พร้อมกับส้นเท้าขวาที่ยกขึ้นก้าวท้าวขวาไปข้างหน้า สติระลึกรู้พร้อมกับส้นเท้าขวาที่เคลื่อนไปข้างหน้า หนอวางเท้าลงถึงพื้น ปลายเท้าและส้นเท้าลงพร้อมกัน สติระลึกรู้พร้อมกับเท้าที่ลงสัมผัสพื้น หรือจะหยิบสิ่งของอะไร ก็ให้สำรวมจิตอยู่ที่มือข้างที่จะหยิบ ตั้งสติปักลงไปที่มือข้างที่จะหยิบสิ่งของอะไร ก็ให้สำรวมจิตอยู่ที่มือข้างที่จะหยิบ ตั้งสติปักลงไปที่มือข้างที่จะหยิบนั้นแล้วกำหนดในใจว่า หยิบหนอ หยิบหนอ สติระลึกพร้อมกับมือข้างที่กำลังหยิบของสิ่งนั้น เป็นต้น
จากหนังสือ: หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมโม
Subscribe to:
Posts (Atom)
-
ที่มาหนังสือ: นิพพานนอกวัด/ผู้แต่ง:พระอาจารย์วิเชียร วชิรปัญโญ วันนี้มีหนังสือมาแนะนำอีกเช่นเคย คิดว่าสำหรับผู้ที่ยังทำงาน มีครอบครั...
-
เรื่อง หนังสือwellfit เรามีเงินไว้ซื้อความสุข หรือซื้ออะไรก็ได้เพื่อให้รู้สึกดี ๆ ราคาที่เราจ่ายไปเพื่อความสุขและความภูมิใจนั้นแพงกว่าที่...
-
สโตนเฮนจ์ (StoneHenge) สโตนเฮนจ์ (StoneHenge) แห่งเมืองซาลเบอรี่ (Salisbury) ประเทศอังกฤษ มีอายุนานประมาณ 5,000-6,000 ปีผู้สนใจสามารถหาข้...