Showing posts with label พลังจิตใต้สำนึก. Show all posts
Showing posts with label พลังจิตใต้สำนึก. Show all posts

8/26/10

6 วิธีสร้างพลังจิตให้คิดรวย

ที่มา : หนังสือยุทธศาสตร์พัฒนาจิต
ความเดิมต่อจากตอนที่แล้วจ้ะ

             ตามหลักของความเป็นจริง บุคคลใดคิดอย่างใดก็จะเป็นคนเช่นนัั้น
มาดูหลักการสร้างพลังจิตให้คิดรวยดังนี้

6 วิํธีสร้างพลังจิตให้คิดรวย

1     คนรวยมีความคิดที่เชื่อว่า ฉันสามารถสร้างสรรค์ชีวิตของฉันได้
       คนจนมีความคิดที่เชื่อว่า  ชีวิตของฉันปล่อยไปตามยถากรรม
ถ้าคุณต้องการชีวิตที่มั่งคั่งร่ำรวย คุณจะต้องคิดอยากรวยก่อนเป็นประการแรก
โดยที่คุณถือพวกมาลัยรถยนต์แห่งชีวิตคุณเอง คิดถึงการที่จะมีเงินได้
อย่างไร วิธีใด โดยมีความเชื่อว่า การเงินที่คุณปรารถนานั้น จะต้องมี
ได้ดังที่คุณปรารถนา
         ต่อไปนี้เป็นการบ้านที่คุณต้องทำ ผมขอสัญญาว่า จะสามารถเปลี่ยน
ชีวิตของคุณได้ใน 7 วันข้างหน้า  ลงมือปฏิบัติ
         -อย่างคิดถึงความยากจนอีกต่อไป
         -อย่าบ่นว่า ฉันจะมีเงินได้อย่างไร มีความรู้น้อย การศึกษาต่ำ รูปร่าง
ไม่สง่างามเหมือนเขา
         -แต่จงคิดแง่บวก คิดดีในด้านสร้างสรรค์ พัฒนาในด้านที่เป็นไปได้ คือ
ไม่ว่าคุณทำอาชีพอะไร ต้องคิดว่า คุณต้องทำได้ คุณต้องได้เงิน และมีเงินได้
คุณต้องประสบความสำเร็จได้

         2 คนรวยคิดรวย คิดได้อย่างมีเ้ป้าหมาย ว่าต้องการอะไร
คุณต้องรู้สิ่งที่คุณต้องการก่อน แล้วจึงคิั้ดที่จะทำให้ได้สิ่งนั้นมา โดยกำหนด
เป้าหมายที่จะให้ได้สิ่งนั้นเมื่อไรในอนาคต  และต้องการจะได้มากน้อย
แค่ไหน ตั้งใจอย่างมุ่งมั่นที่จะได้สิ่งนั้นมาภายในเวลาที่กำหนด
           เมื่อคุณต้องการ โดยมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะก้าวไปสู่
การมีเงิน มีฐานะดี มีความเป็นอยู่ดี  เป้าหมายของคุณก็คือ ต้องการมีเงิน
มีฐานะ และความเป็นอยู่ดี โดยคิดมุ่งหวังอยู่เช่นนี้ตลอดเวลา

         3 คนรวยตั้งปณิธานว่า ต้องรวยให้ได้ในชีวิตนี้
            คนจนไม่เคยตั้งปณิธานว่าจะต้องรวยให้ได้ในชีิวิตนี้
คนเราส่วนมากคิดดีอย่างมีเหตุผล ว่าทำไมจึงอยากรวย เพราะความร่ำรวย
มีเงินมีทองนั้นหมายถึง การที่จะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นในหลาย ๆ ด้าน
แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะถ้าหากมีเงินร่ำรวย แต่มาจนด้านสุขภาพจิตและร่างกาย
เสียแล้ว เป้าหมายที่จะมีเงินร่ำรวยอย่างต่อเนื่องก็ต้องหยุดชะงักลงทันที
สิ่งทีดังนั้น เป้าหมายที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ขาดเสียมิได้ก็คือ ต้องมี
สุขภาพดี อยู่เสมอด้วยเช่นกัน
น             สิ่งที่สำคัญอีกข้อหนึ่งก็คือ คนส่วนมากไม่ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ เป็น
เพราะำพวกเขาไม่รู้แน่ชัดว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการจริง ๆ นั้นเป็นอะไร เป็น
สิ่งใด ส่วนคนรวยนั้น จะรู้สิ่งที่เขาต้องการอย่างชัดเจน แล้วก็คิดมุ่งมั่นอยู่กับ
สิ่งที่เขาต้องการโดยไม่มีวันหยุด เขาจะพยายามทำทุกวิถีทางที่จะให้ได้สิ่ง
ที่เขาปรารถนาให้จงได้ แต่ไม่ได้ทำผิดกฏหมายและศีลธรรม

            ความคิดที่ต้องมีเงินหรือร่ำรวยนั้น ไม่เหมือนกับความคิด เดินเล่นอยู่
ในสวนสาธารณะ ต้องคอยกำหนดจิตจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ต้องการอันเป็นเป้าหมาย
อย่างมุ่งมั่นและต่อเนื่อง ด้วยความพากเพียรพยายามอย่างไม่หยุดคุณต้อง
มีความเชื่ออยู่ในจิตว่าคุณต้องทำได้ แต่ถ้าไม่มีความตั้งใจมุ่งมั่นแน่วแน่วแล้ว
การที่จะไปให้ถึงเป้าหมายที่คุณปรารถนนั้นก็เป็นไปได้ยาก

           4 คนรวย คิดใหญ่ คิดอย่างมีพลัง คิดต้องได้ คิดต้องมี
              คนจน คิดเล็ก คิดได้ก็ดี ไม่ได้ช่างมัน
ความลับของความร่ำรวยแท้จริงแล้วอยู่ที่  พลังอำนาจของความคิด ขึ้นอยู่
กับผู้คิด คิดอย่างไรมักได้อย่างนั้น บุคคลที่รู้จักใช้ความคิดหรือรู้จักคิดย่อม
ใช้พลังอำนาจของความคิดเป็นพลังงานดึงดูดสิ่งที่ต้องการเข้ามาสู่ตนได้
พลังความคิดที่จะเกิดผลได้ จะต้องมีความเชื่อร่วมด้วย

            5 คนรวย ไม่คิดถึงปัญหา หากมีปัญหาก็คิดว่าเป็นแรงเสริมให้
มุ่งมั่นเข้มแข็งขึ้น
                คนจน  คอยคิดถึงแต่ปัญหา หากมีปัญหาก็ยอมแพ้ หยุดสู้ต่อไป
การที่จะร่ำรวยได้นั้น ไม่เหมือนกับการเดินเล่นอยู่ในสวนสาธารณะ แต่หาก
เป็นการเดินทางที่ต้องพบกับอุปสรรคมากมาย ดังที่นักประพันธ์บางคน
กล่าวว่า ชีิวิตเรานั้นใช่ว่าจะเดินอยู่บนกลีบกุหลาบ หากต้องเดินอยู่บนถนนที่
ขรุขระหรือมีขวากหนามบ้าง ชีวิตจึงจะมีรสชาติ เป็นคำกล่าวที่จริงทีเดียว
คนที่จะมีเงินมีทองได้ต้องทำงานหนัก คนที่จะมีชื่อเสียงได้ต้องทำงานหนัก
ไม่ใช่อยู่เฉย ๆ แล้วจะได้เงินได้ทอง ได้ชื่อเสียง ผู้ที่ประสบความสำเร็จทุกคน
ล้วนแล้วแต่เป็นนักผจญภัยชีวิตที่ยอดเยี่ยม ฟันฝ่าอุปสรรคนานาชนิดมามากมาย
กว่าจะมาถึงจุดนี้คือจุดที่มั่งมีเงินทอง มีชื่อเสียง
              คนจน เห็นอุปสรรคความยากลำบากเข้าหน่อยก็เกิดความท้อใจ
พยายามหาทางหลีกเลี่ยงความยากลำบากอยู่เสมอ ไม่เคยคิดกล้าที่จะฟันฝ่า
อุปสรรคความยากลำบากนั้นเลย ชอบความเป็นอยู่ที่ง่าย ๆ สะดวกสบาย
บุคคลประเภทนี้ยากที่จะเจริญ  ยากที่จะร่ำรวย และยากที่จะประสบความสำเร็จ
มีชื่อเสียงได้
            คนรวย ไม่มีความย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ ทั้งสิ่นเห็นอุปสรรคเป็นสิ่งที่
ช่วยพัฒนาให้มีพลังจิตที่กล้าแข้งอดทน และก่อให้เกิดประสบการ์ณ ก่อให้
เกิดปัญญาที่ช่วยให้รู้วิธีแก้ไขต่อไป ไม่ว่าอุปสรรคชนิดใดเข้ามา ก็จะเอา
ประสบการ์ณและปัญญาในอดีตมาฟันฝ่าแก้ปัญหานั้น ๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้

            6 คนรวย พยายามจ้องมองหาโอกาสอยู่เสมอ
               คนจน พยายามจ้องมองหาปัญหาอยู่เสมอ
คนรวยเป็นคนที่แสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาตนอยู่เสมอ เป็นการเตรียมตัวรอโอกาส
ที่จะมาถึง เปรียบดังชาวประมงที่เตรียมใบเรือให้พร้อมอยู่เสมอพอลมมาก็แล่นเรือ
ออกสู่ทะเลลึกได้ทันที การเตรียมความรู้ความสามารถให้พร้อมอยู่เสมอเป็นการดี
เมื่อโอกาสมาถึงก็สามารถตอบรับโอกาสนั้นได้ทันที
               คนจนมักเป็นคนที่ชอบความสะดวก ง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่คิดด้ิิ้นรนแต่
ประการใด ไม่รักความรู้ ไม่คิดแสวงหาความรู้เลย ไม่เตรียมตัวเพื่อการใด ๆไม่เคย
คิดถึงโอกาส และคิดว่าชีวิตนี้ของตนเอง คงไม่มีโอกาสที่จะมีงานที่ดีคิดว่าไม่มี
ทางที่จะมีเงินร่ำรวยอีกแล้ว จึงปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามมีตามเกิดหรือตามยถา
กรรม เหมือนปลาตายที่ลอยตามน้ำเท่านั้น
               ในโลกทางการเงิน ความกล้าเสี่ยงบางครั้งก็ทำให้ได้รับรางวัลของ
ความกล้าเสียงได้อย่างคุ้มค่า รางวัลที่สูงค่า ย่อมต้องกล้าสู้ความเสี่ยงที่สูง
ด้วยเช่นกัน คนรวยมักเป็นผู้ที่กล้าเสียงเสมอ
               คนรวย มีความคาดหวังต่อความสำเร็จ เขามีความมั่นใจต่อความ
สามารถของเขา มีความมั่นใจต่อความคิดสร้างสรรค์ตลอด และมีความเชื่อ
มั่นว่า สิ่งที่เขาทำต้องประสบความสำเร็จ
               คนจน มีความคาดหวังต่อความล้มเหลว เพราะเขาขาดความมั่นใจ
ในตนเอง ขาดความเชื่อมั่นในความสามารถของเขา และคิดว่าสิ่งที่เขาทำ
คงเป็นไปไม่ได้ที่จะประสบความสำเร็จ เขาเชื่อว่า ถ้าเขาทำไปจะต้องประสบ
ความหายนะแน่นอน
              อย่างไรก็ตาม คนเราเกิดมา ถ้ามีร่างกายครบ 32 มีจิตใจเป็นปกติดี
และรู้จักใช้ความคิด ย่อมต้องทำบางสิ่งเพื่อเป็นการลงทุนให้กับชีวิตบ้าง
เริ่มตัดสินใจ ตั้งใจที่จะทำอะไรบางอย่างเพื่อให้มีการเงินดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เดิม
ควรแสวงหาโอกาสที่จะสร้างผลกำไรให้แก่ชีวิตของตน แทนที่จะคิดถึงการ
ขาดทุน สูญเสีย และล้มเหลว
             วันนี้ ขอให้ท่านทั้งหลายพัฒนาศักยภาพในการปลุกความคิด
ให้มีพลังอำนาจของความคิดปรากฏขึ้นในจิตใต้สำนึกอย่างชัดเจน เป็นพลัง
ผลักดันให้ท่านมีความคิดที่มีพลังมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมายได้อย่างประสบ
ความสำเร็จ สมความปรารถนา

8/25/10

หนังสือเกี่ยวกับพลังจิต ตอนที่2

     ตามที่สัญญาว่าจะนำมาลงให้อ่านกันอีก 1 เล่มค่ะ ถึงช้าแต่ก็ไม่ลืมนะจ้ะ
ชื่อเรื่องว่า   ยุทธศาสตร์พัฒนาจิต ผู้เขียนท่านเดิมคือ ดร.บุญเลิศ สายสนิท
คิดว่าคนที่สนใจเรื่องพลังจิตคงจะรู้จักท่านกันเป็นอย่างดีแล้ว

     มีทั้งหมด25 ยุทธศาสตร์
1     กฏของการเป็นมนุษย์
2     จิตรอบรู้เรื่องที่ทำให้เราเสียเวลาและพลังงานแห่งชีวิต
3     จงรักชีวิตของตนอย่างแท้จริง
4     ความรู้ ความเข้าใจ คุณค่าของคน
5     พลังดีมีอำนาจมากที่สุดในจักรวาล
6     สร้างจิตสำนึกและหมั่นเติมพลังงานให้ตนเองทุกวัน
7     พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่แห่งความคิด
8     พลังคิดพิชิตความจน
9     สูตรสั่งจิตที่มีส่วนประกอบและหลักการสำคัญ
10     จูนกระแสจิตด้วยรอยยิ้มเพื่อสุขภาพ
11     บรรเทาความเครียดด้วยจิตผ่อนคลาย
12     กุญแจบุคลิกภาพของความสำเร็จที่ซ่อนเร้น
13     6วิธีสร้างพลังจิตให้คิดรวย
14     10หลักพัฒนาจิตให้ทำงานอย่างมีความสุข
15      ใช้จิตวางแผนเร่งการเรียนรู้เร็ว
16     พัฒนาจิตพลิกสูตรแห่งความสำเร็จแบบยั่งยืน
17     ใช้จิตสำรวจตรวจสอบ การดำเนินชีวิตส่วนตัวอย่างรอบคอบ
18     ศาสตร์สรรค์สร้างจิตให้คิดใหม่
19     บันได 15ขั้น ก้าวสู่ความสำเร็จ
20     พลังอำนาจของความคิดด้านลบ
21     พลังอำนาจจิตของความคิดในเชิงบวก
22     วิธีกำหนดเป้าหมายของคุณ
23     หลักการดำเนินชีวิตที่ประสบความสำเร็จ
24     หลักการดำเนินชีวิตเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี
25     หลักการเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

รูปเล่มเป็นดังนี้จ้า
จะขอเลือกบางส่วนมาเขียน เดา ๆ เอาแล้วกันว่าคนส่วนใหญ่น่าจะอยากรู้เรื่อง
   ยุทธศาสตร์ที่13   :   6 วิธีสร้างพลังจิตให้คิดรวย
     การที่จะมีความมั่งคั่งร่ำรวยได้นั้น คุณต้องมีความต้องการ ความมั่งคั่งร่ำรวย
สภาวะจิตของคุณต้องคิดถึงความมั่งคั่งร่ำรวย นี่คือสิ่งทีี่เราต้องโปรแกรมจิต
เริ่มจากการพิสูจน์  คุณต้องมีความเชื่อว่า คุณสามารถที่จะรวยได้   ฝึกจิตของคุณ
ให้บรรลุถึงความสำเร็จ ต่อไปนี้จะเป็นวิธีการสร้างการคิดรวย

     คุณเคยพูดหรือเคยมีความเชื่อในประโยคเหล่านี้บ้างไหม
-     คุณต้องทำงานหนักถึงจะได้เงิน
-     การมีเงินนั้น มันเป็นเรื่องของคนอื่น ๆ เขา ไม่ใช่ฉัน
-     การจัดการกับการเงินนั้น เป็นเรื่องยาก
-     เป็นการยากที่จะหาเงินให้ได้มาก ๆ
-     ต้องมีเงินต่อเงิน จึงจะได้เงินมา
-     การดำรงชีวิตด้านจิตวิญญาณ ไม่ควรคิดว่าเงินสำคัญ
-     ชั่วชีวิตนี้ ฉันจะไม่มีวันร่ำรวยแน่นอน
-     ไม่ว่าฉันจะทำอะไรหรือสิ่งใด ไม่เห็นทางว่าจะร่ำรวนได้เลย

     คุณต้องเปลี่ยนทัศนคติแนวคิดที่มี  ความเชืื่่่่อในเรื่องความรวยที่อยู่ในขอบเขตจำกัด
ให้เป็นความเชื่อว่าจะต้องรวยได้อย่างไร้ขอบเขตจำกัด

     การที่คุณจะร่ำรวยได้นั้นอยู่ที่การโปรแกรมจิตตามความคิดของคุณ คำพูดและ
การกระทำของคุณเป็นเครื่องบ่งบอกว่า คุณจะเป็นคนมั่งมีหรือเป็นคนจน

     พลังอำนาจของความคิดนั้นมีจริง ทุกครั้งที่คุณคิด สิ่งที่คุณคิดจะก่อตัวตนและปรากฏ
ขึ้น ทำให้คุณรู้สึกได้ ทำให้ตัวคุณเองและผู้อื่นมองเห็นได้ ดังเราจะเห็นคนที่ิคิดถึงความ
ผิดหวัง คิดถึงการตัดสินใจผิดพลาดไป คิดถึงความสูญเสีย หรือคิดถึงความล้มเหลว
แม้แต่เหตุการณ์เหล่านี้จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ความคิดเหล่านี้ก็ยังคุกกรุ่นอยู่ในความรู้สึก
และอารมณ์ตลอดเวลา ทำให้ความคิด ความรู้สึก และอารมณ์เช่่นนี้ถูกผลักดันจากภายใน
ออกมาปรากฏภายนอก ทำให้เห็นบุคลิกลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไป มองดูอ่อนเปลี้ย
เพลียแรง คล้ายหมดกำลังวังชา หน้าตาซูบเซียวหมองคล้ำ ส่วนผู้ที่คิดบวกสร้างสรรค์
คิดถึงสิ่งที่ตนได้มาหรือกำลังจะได้มา สิ่งที่ได้มานี้จะทำให้ชีวิตดีขึ้น มีความเป็นอยู่
ดีขึ้น และทำให้ประสบความสำเร็จและมีความสุข ความคิดเช่นนี้ แม้คิดอยู่ภายใน
แต่ก็จะปรากฏออกมาภายนอกให้เห็นได้อย่างชัดเจน อากัปกิริยาท่าทาง บุคลิกที่มีพลังใจ
พลังกายแสดงออกมา มีความกระตือรือร้น กระฉับกระเฉงว่องไว กระปรี้กระเปร่า ดวงตา
สดใสเป็นประกายแห่งความสุขสดชื่นแจ่มใส มีรอยยิ้มในดวงตาและบนใบหน้าอย่างเห็น
ได้ชัด บ่งบอกถึงความคิด ความรู้สึก และอารมณ์ที่ดีมีความสุขอยู่ภายใน ผลักดันให้ปรากฏ
ออกมา ดังนั้น พลังอำนาจของความคิดนั้นจึงมีความสำคัญต่อมนุษย์เราทุกคน
  
     โดยทั่วไปแล้ว คนรวยมักคิดดี คิดใหญ่ คิดได้ ไม่คิดเสีย แตกต่างไปจากคนจน ที่คิด
กลัว คิดไม่กล้า คิดท้อใจ คิดเบื่อหน่าย คิดเกียจคร้าน ขาดความเชื่อมั่น คิดลบ คิดระวัง
ระแวงไปต่าง ๆ นา ๆ จนทำให้ชีวิตอยู่กับที่ ไม่ก้าวหน้า และในที่สุดทำให้ไม่ประสบความ
สำเร็จในชีวิต แม้วัยจะล่วงเลยไปถึง เลข 4 เลข5 หรือเลข6 และนับวันตัวเลขแห่งวัยที่
เพิ่มขึ้น แสดงออกให้รู้ว่าบทละครแห่งชีวิตใกล้จะปิดฉากลง เป็นฉากสุดท้ายที่จบลง
อย่างทุกขเวทนา และน่าสงสาร

ในตอนหน้าเราจะมาอ่านต่อถึง 6วิธีที่จะสร้างพลังจิตให้คิดรวยกันจ้า
  

หนังสือเกี่ยวกับพลังจิต ตอนที่1

สองเล่มแรกที่อยากจะแนะนำเป็นของดร. บุญเลิศ สายสนิท
ดร.บุญเลิศนั้นจบการศึกษาทางด้านจิตวิทยาพัฒนาการ และ
ศาสตร์เกี่ยวกับพลังจิตโดยเฉพาะ และปัจจุบันเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ด้านจิตบำบัดคนหนึ่งของเมืองไทย มีศูนย์อบรมบำบัดทางจิต
และภาษาอังกฤษแก่คนทั่วไป
             ทีนี้เราลองมาดูเล่มแรกกัน
ศาสตร์แห่งการสั่งจิตบำบัด
           ศาสตร์ทุกศาสตร์มีความหมายว่าความรู้ความเชี่ยวชาญ
ในวิชาชีพอย่างลึกซึ้งและนำมาศึกษาให้แตกฉาน
จนเป็นภูมิรู้ติดตัวได้...ศาสตร์สั่งจิตเป็นศาสตร์ที่หมายรวมถึง
การใช้จิตสั่งอำนาจจิตในตัวเองได้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า
            การสั่งจิตนั้นสามารถพิชิตอุปสรรคได้ร้อยแปด
เช่น พิชิตโรคร้ายต่าง ๆ พิชิตความจน พิชิตความขี้เกียจ
พิชิตขี้เหล้าเมายา พิชิตให้เลิกคิดฆ่าตัวตาย
พิชิตความอ้วน พิชิตใจให้ขยันเรียนได้ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้หายได้โดยไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบั

     ในเล่มนี้จะมีห้าบทบวกกับหนึ่งภาคผนวกจะขอยกบทความมาบางส่วน
 ประเภทของจิตแบ่งได้ดังนี้
1     จิตของบุคคลธรรมดา จิตประเภทนี้เป็นจิตที่ปล่อยไปตามอารมณ์
ยังคงยึดติดอยู่กับรูป รส กลิ่นเสียง และสัมผัสค่อนข้างมาก

2     จิตของบุคคลที่รู้จักคิด  เป็นจิตของผู้ที่ยังคงมีความพึงพอใจในรูป
รสกลิ่นเสียงและสัมผัสแต่พอประมาณหรือปานกลางไม่ถึงกับลุ่มหลงมัวเมา

3     จิตของนักฝึกปฏิบัติและพัฒนาจิต เป็นจิตที่ถือว่ารูป รสกลิ่นเสียงและสัมผัส
เป็นสิ่งธรรมดาไม่ยั่งยืน สามารถควบคุมจิตตนเองได้ จะมีหรือไม่มี  จะทำ
หรือไม่ทำ หรือจะหยุดเมื่อใดก็ย่อมได้ ไม่ปล่อยให้อำนาจของรูป รส กลิ่น
เสียงและสัมผัสมีอำนาจเหนือจิตและกายของตน เป็นจิตที่สามารถควบคุมอารมณ์
ความรู้สึกได้

4     จิตของผู้เหนือโลก เป็นจิตที่สละแล้วซึ่งทุกสิ่ง ไม่ยึดมั่นหรือยึดติดกับ
สิ่งใด ๆ ในโลก งดเว้นรูป รสกลิ่นเสียง และสัมผัสโดยสิ้นเชิง เป็นจิตที่หลุดพ้น
จากกิเลสตัณหา เตรียมพร้อมเข้าสู่นิพพาน

          พลังงานแห่งจิตก่อให้เกิดประโยชน์ในทางใดบ้าง
1     การสั่งจิตแก้ปัญหาและปรับเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
2     การโทรจิตหรือการส่งคลื่นกระแสจิต
3     การสั่งจิตเพื่อบำบัดโรค
4     การสั่งจิตเพื่อย้อนอดีตและดูอนาคต
5     การทำสมาธิเพื่อพลังอำนาจจิต
6     การใช้พลังจิตเพื่อบังคับวัตถุให้เคลื่อนที่
7     การใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากจิตบำบัดโรค
8     การทดสอบจิตของบุคคลอื่น รับหรือด้าน นิ่งหรือไม่นิ่ง
9     การใช้พลังจิตกับเพนดูลัมเพื่อหาแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำหรือแร่
10   ใช้พลังจิตทำให้ร่างกายหนักหรือเบาขึ้น
11   ใช้พลังจิตให้ร่างกายและผิวพรรณแลดูอ่อนกว่าวัย

        

8/19/10

พลังที่มีอำนาจมากที่สุดในจักรวาล

โดย -  อ. ดร. บุญเลิศ  สายสนิท  A.M.D., M.H.A., P.M.T., C.Ht
 ถ้าผมเอ่ยนามชาวต่างชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลกท่านหนึ่งขึ้นมา  ท่านจะรู้จักทันที  แต่ท่านรู้จักเพียงแต่ชื่อและเห็นภาพท่านเท่านั้น  เพราะท่านเสียชีวิตไปนานแล้ว  ท่านผู้นี้คือ  อัลเบิร์ท  ไอสไตน์  (Albert  Einstein)   ท่านกล่าวว่า  “จินตนาการเป็นพลังอำนาจสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล”  (Imagination is the greatest creative force in the universe)   ทำไมนักวิทยาศาตร์ท่านนี้จึงกล่าวเช่นนี้    ขอให้เรามาดูคำพูดที่ว่า  “พลังอำนาจสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”  กับคำว่า  “จินตนาการ”   ทำไมท่านไม่กล่าวถึง  การศึกษา  หรือ  เงิน  หรือ โชควาสนา 
 นักเขียนหรือนักประพันธ์ผู้มีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่อีกผู้หนึ่ง  ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งขื่อว่า  “คิดแล้วร่ำรวย”  (Think and Grow Rich)  เป็นหนังสือที่ขายดีอันดับหนึ่งของโลก   ท่านกล่าวว่า  “จินตนาการเป็นพลังอำนาจที่น่าพิศวงมหัศจรรย์อย่างประหลาดที่สุดที่โลกเคยรู้จัก”  ท่านผู้ที่กล่าวถ้อยคำนี้ก็คือ  นโปเลียน  ฮิล  (Napoleon  Hill)  ท่านผู้นี้เคยเป็นที่ปรึกษาแก่ประธานาธิบดีของสหรัฐถึง  2  ท่านด้วยกัน  เป็นผู้ที่ได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ของท่านคือ  แอนดรู  คาร์เนกี  (Andrew  Carnegie)   ซึ่งเป็นผู้สอนคนให้รู้วิธีที่จะมั่งคั่งร่ำรวยและสานความฝันให้เป็นความ จริง   มีบุคคลสำคัญ บุคคลที่ยิ่งใหญ่ทั่วโลกได้ขอบคุณเขา  ช่วยพวกเขาได้วิธีคิดที่พัฒนาศักยภาพเขาให้ร่ำรวยได้อย่างสมความปรารถนา  ท่านยังได้ช่วยบุคคลเหล่านี้ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันกับ  วู๊ดโรว์  วิลสัน (อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ)  จอร์จ  อีสท์แมน  (ผู้ก่อตั้งบริษัทโกดัก) และมีผู้อื่นอีกมากที่ได้ประสบความสำเร็จจากคำสอนของท่าน
การจินตนาการเป็นพลังอำนาจที่สามารถนำพาท่านไปพบเห็นสถานที่หรือสิ่งต่าง ๆ ที่ท่านยังไม่เคยเห็นและยังไม่เคยไปมาก่อนเลย
 เฮนรี่  ฟอร์ด  (Henry  Ford)  มีความไว้วางใจในเรื่อง   การจินตนาการและความเชื่อ   และ  วอลท์  ดิสนี่ย์  (Walt  Disney)   กล่าวว่า  ถ้าเขาไม่ได้เห็นภาพ ดิสนี่แลนด์ ในจิตของเขา  บุคคลอื่น ๆ ในโลกนี้ก็คงไม่ได้เห็นดิสนี่แลนด์ (Disneyland) ด้วยเช่นกัน    แม้แต่  บิลล์  เกทส์  (Bill  Gates)  ก็ใช้ การจินตนาการ ต่อสินค้าที่เขาผลิตขึ้นมา  บุคคลที่ประสบความสำเร็จส่วนมากแล้วล้วนมีจินตนาการที่แจ่มชัดทำให้ความฝัน ของเขาเป็นความจริงขึ้นมาได้อย่างอัศจรรย์
จักรวาลจะช่วยให้ท่านได้รับประสบการณ์ดังจินตนาการของท่านไม่ว่าสิ่งนั้น ๆ จะเป็นอะไร 
 ดังคำปราชญ์กล่าวไว้ว่า  “บุคคลใดคิดเช่นใด  ก็จะได้และเป็นเช่นนั้น”   ชีวิตของเรามักจะเป็นไปตามจิตที่คิด หรือเป็นไปตามจิตที่สร้างภาพขึ้นให้เห็นวิธีดำเนินชีวิต  การเรียน  การทำงานหรือการทำธุรกิจ  ซึ่งจะเป็นไปตามความคิดหรือจินตนาการของเราทั้งสิ้น 
 ประสบการณ์จากความคิดของท่านเองจะเป็นเครื่องชี้บอกว่า  สิ่งใดที่ควรจะเลือกรับไว้  และสิ่งใดที่ควรจะละเว้นและขจัดตัดออกไป  ท่านรู้ได้ด้วยตัวของท่านเอง    ตามความเป็นจริงแล้ว  ในอดีตที่ผ่านมา  ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาด  ความสูญเสีย  ความผิดหวัง  และความล้มเหลว  ล้วนแล้วตัวของเราเองเป็นผู้เลือกรับเลือกทำและเลือกมีเองทั้งสิ้น  เราจะไปโทษใครไม่ได้  ตรงกันข้าม  อดีตที่ท่านสมหวัง  ประสบความสำเร็จ  ก็เป็นเพราะท่านเลือกเองทั้งสิ้นด้วยเช่นกัน 
ความคิด  ภาพนิมิตรและความฝันของท่าน   ไม่ว่าจะเป็นอะไรหรือสิ่งใด ๆ  พอจะเป็นการพยากรณ์ได้ว่า  ท่านจะมี  จะได้  จะเป็น สักวันหนึ่งในอนาคตอย่างแน่นอน   พฤติกรรมของความคิด  และการกระทำของท่าน  ในปัจจุบัน  เป็นสิ่งบ่งบอกถึงสิ่งที่ท่านจะประสบในอนาตตอย่างแน่นอน
 มีหลายสิ่งมากมายที่มีอิทธิพลต่อความคิดและการจินตนาการของท่าน  - ความกลัวในอดีต  ความประหม่าตื่นเต้น  การขาดความรู้ความเข้าใจชีวิตของตนเองและผู้อื่น  ขาดการตั้งเป้าหมายในชีวิต  ต่อไปนี้  ให้ท่านปรับเปลี่ยนความคิด   ปรับเปลี่ยนจินตนาการ  ปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต  โดยหยุดพฤติกรรมใด ๆ ที่ทำให้ผิดพลาด  ทำให้ผิดหวัง  ทำให้ล้มเหลว และทำให้สูญเสีย  มาสร้างจินตนาการ  การดำเนินชีวิตเสียใหม่  สลัดทิ้งพฤติกรรมเก่า ๆ  ที่ล้วนแต่ไม่ดีทั้งหลายให้หมดสิ้นไป   เริ่มคิดใหม่  คิดบวก  คิดดี  คิดสร้างสรรค์  คิดพัฒนาตนให้เป็นผู้รักความเจริญก้าวหน้า  มุ่งทำงานหรือธุรกิจที่ตนเองชอบและรัก  ด้วยความขยันหมั่นเพียร  ด้วยความอดทน  ก้าวไปข้างหน้าโดยไม่หยุด  ทำตามแผนการณ์หรือแผนงานของเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้  ต้องก้าวไปให้ถึงหลักชัยแห่งความสำเร็จให้ได้  โดยปราศจากความย่อท้อ  การผลัดวันประกันพรุ่ง   โดยคิดถึงด้วยความขยันหมั่นเพียร  ด้วยความอดทน  ก้าวไปข้างหน้าโดยไม่หยุด  ทำตามแผนการณ์หรือแผนงานของเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้  ต้องก้าวไปให้ถึงหลักชัยแห่งความสำเร็จให้ได้  โดยปราศจากความย่อท้อ  ไม่ผลัดวันประกันพรุ่งอีกต่อไป

ที่มา : hypnoticquality.com

8/16/10

ศูนย์ค้นคว้าและฝึกอบรมพลังจิตใต้สำนึก


ศูนย์ค้นคว้าและฝึกอบรมพลังจิตใต้สำนึก
The Center of Research and Training Subconscious Power

จุดประสงค์: เพื่อพัฒนาศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิต-กาย
บำบัดรักษาแก้ปัญหาสุขภาพของจิต-กาย-จิตวิญญาณ  นอกจากนี้ ยังช่วยพัฒนา ความจำ การศึกษาเล่าเรียน การประกอบอาชีพการงานและการทำธุรกิจอย่างประสบความสำเร็จ



ผู้ก่อตั้ง: อ.ดร. บุญเลิศ  สายสนิท Ph.D., A.M.D., M.H.A., P.M.T., C.Ht.
ผู้เชี่ยวชาญการสั่งจิตบำบัดทางการแพทย์และทันตกรรมนานาชาติ ได้รับการรับรองให้เป็น Certified Hypnotherapist, Medical Hypnoanalist, Pain Manangement Therapist  และ เป็นสมาชิกดีเด่น ของ 2 สมาคม  IMDHA และ IACT, USA  สามารถ สั่งจิต (Hypnotize) บำบัดรักษาแก้ปัญหา ให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ  ด้วยภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

ที่ตั้ง : 231  ม. บ้านซื่อตรง  ซอย 3  พหลโยธิน 52  คลองถนน  สายไหม  กรุงเทพฯ  10220
โทร  02-551-3856  //  089-689-7287   โทรสาร  02-551-3856

บทเรียนแง่คิดที่ให้สติปัญญา30 ข้อ สำหรับปีใหม่ 2553
          ทุกชีวิตที่เกิดมาหาลิขิตเองได้ไม่ แต่เราก็ได้เกิดมาแล้ว จะดีเลวอย่างไร อย่าไปคำนึงถึง แต่ตั้งนี้เป็นต้นไป เราต้องลิขิตชีวิตของเราให้ได้ เพราะ ชีวิตเป็นของเรา เรารักและหวงแหน มีใครบ้างที่ไม่รักชีวิตของตนเอง จะมีก็ เฉพาะคนที่สติเสียหรือเสียสติเท่านั้น เมื่อรักชีวิตของตนอย่างจริงจัง แล้ว จงอ่านข้อคิดที่อาจารย์ถ่ายทอดเป็นคำพูดข้อเขียนให้ไว้เพื่อเป็น เครื่องช่วยเตือนสติ ให้เกิดความคิดและปัญญา เพื่อพัฒนาชีวิตของตนให้ดีในปีใหม่ที่จะมาถึงนี้และ ขอให้ชีวิตของคุณอยู่ภายใต้การลิขิตของตนตั้งแต่วันนี้และตลอดไป
1.    ทุกชีวิตที่เกิดมาแตกต่างกัน ดูเหมือนไม่ยุติธรรม แต่ชีวิตก็ยังมีส่วนที่ดี
2.    เมื่อใดที่จิตใจมีความสงสัย ก็จงค่อย ๆ ย่างก้าวต่อไปอย่างระมัดระวัง
3.    ชีวิตนี้สั้นเกินไปที่จะปล่อยให้เวลาของชีวิตสูญเสียไป กับการโกรธเกลียดใครๆผู้ใด
4.    งานของคุณไม่สามารถสร้างเงินให้คุณได้ ถ้าเจ็บป่วยสุขภาพเสื่อมโทรม 
5.    ยามคุณเจ็บป่วยคนที่จะช่วยคุณได้คือเพื่อน ๆ ที่ดีและคุณพ่อคุณแม่ของคุณ จงรักษาความสัมพันธภาพที่ดีต่อกันเข้าไว้
6.    คุณไม่ต้องเอาชนะในการโต้ถียงทุกครั้งไป ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม
7.    จงระวังบัตรเครดิตของคุณให้ดีที่สุด อย่าให้เกิดหนี้จนล้นพ้นตัวแล้วจะเสียใจเพราะใช้บัตรเครดิตตามอารมณ์มากเกินไป
8.    เมื่อใดที่คุณอยากร้องไห้ จงร้องไห้กับใครสักคนหนึ่ง จะช่วยบำบัดปัญหาได้ดีกว่าร้องไห้คนเดียว
9.    จงเตรียมออมเงินของคุณไว้ เมื่อถึงเวลาหยุดทำงาน จะไม่ทำให้คุณทุกข์ใจทุกข์กาย
10.จงสร้างสันติภาพกับอดีตของคุณ เพื่อไม่ให้เกิดปีนเกลียวกันในปัจจุบัน
11.บางครั้งคุณต้องร้องไห้ให้ลูกเห็น ก็จงปล่อยให้เขาเห็นเถิด ไม่ต้องอายหรือปิดบังความรู้สึกที่เป็นความจริง
12. อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตนเองกับชีวิตของผู้อื่น เพราะคุณก็ไม่สามารถจะล่วงรู้ได้ว่า ชีวิตที่แท้จริงของเขานั้นเป็นอย่างไร
13. ทุกสิ่งในโลกนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงได้ อย่าไปวิตกกังวล เพราะสักวันหนึ่งย่อมมาถึงทุกคนเช่นเดียวกัน
14. เมื่อรู้สึกขัดใจ จงหายใจเข้า-ออกให้ลึก ๆ มันจะทำให้จิตใจสงบลง
15. จงขจัดทุกสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ให้โทษ ไม่สวยงาม ไม่รื่นรมย์ให้หมดไป
16. จงระวังเจ้าความคิดอิจฉา ริษยา โกรธ เกลียดและเคียดแค้น พวกนี้เป็นโรคร้ายบั่นทอนและทำลายจิตและร่างกายให้เสื่อมโทรม
17. จงแสวงหาความรู้เมื่อมีโอกาส เพราะวันหนึ่งอาจจะหมดโอกาสได้
18. พลังของอวัยเพศที่สำคัญที่สุดคือสมอง
19. ไม่มีใครที่จะสร้างความสุขให้คุณได้เท่ากับตนเอง (ความทุกข์ก็เช่นกัน)
20. จงสั่งจิตใต้สำนึกให้เลือกเพื่อน เลือกคู่ เลือกงานที่เหมาะสมกับตน
21. จงให้อภัยแก่ทุกคนและทุกสิ่ง
22. ใครจะคิดกับคุณอย่างไร ข่างเขาเถิด   ไม่กงการอะไรของคุณ
23. เวลาบำบัดเกือบทุกสิ่งให้หายเป็นปกติได้
24. ไม่ว่าคุณจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นไรก็ตาม จงสงบและมีสติเท่านั้น มันจะเปลี่ยนแปลงได้
25. อย่าเคร่งเครียดกับชีวิตจนเกินไป  เพราะมีแต่จะเลวลง
26. พลังอำนาจของความเชื่อนั้นยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์ยิ่งนัก
27. เมื่อมีดี อย่าเก็บไว้ จงนำออกมาแสดง เพื่อตน และเพื่อสังคม
28. จงออกไปเผชิญกับชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้ได้ทุกวัน เพราะความมหัศจรรย์คอยอยู่ทั่วไป
29. ชีวิตไม่ได้ผูกด้วยโบว์เสมอไป แต่ชีวิตก็ยังเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่
30. จงทำช่วงวัยแห่งชีวิตของคุณที่เหลืออยู่นี้ ให้เป็นช่วงวัยแห่งชีวิตของคุณที่ดีที่สุด
ให้มีความสงบ ความสุขและสันติสุขให้จงได้
ขอให้คุณจงประสบความสำเร็จ ความสุข ในสิ่งที่คุณปรารถนาทุกประการ ตลอดปี 2553 นี้เทอญ
จาก อ. ดร. บุญเลิศ สายสนิท