โดย - อ. ดร. บุญเลิศ สายสนิท A.M.D., M.H.A., P.M.T., C.Ht
ถ้าผมเอ่ยนามชาวต่างชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลกท่านหนึ่งขึ้นมา ท่านจะรู้จักทันที แต่ท่านรู้จักเพียงแต่ชื่อและเห็นภาพท่านเท่านั้น เพราะท่านเสียชีวิตไปนานแล้ว ท่านผู้นี้คือ อัลเบิร์ท ไอสไตน์ (Albert Einstein) ท่านกล่าวว่า “จินตนาการเป็นพลังอำนาจสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล” (Imagination is the greatest creative force in the universe) ทำไมนักวิทยาศาตร์ท่านนี้จึงกล่าวเช่นนี้ ขอให้เรามาดูคำพูดที่ว่า “พลังอำนาจสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” กับคำว่า “จินตนาการ” ทำไมท่านไม่กล่าวถึง การศึกษา หรือ เงิน หรือ โชควาสนา
นักเขียนหรือนักประพันธ์ผู้มีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่อีกผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งขื่อว่า “คิดแล้วร่ำรวย” (Think and Grow Rich) เป็นหนังสือที่ขายดีอันดับหนึ่งของโลก ท่านกล่าวว่า “จินตนาการเป็นพลังอำนาจที่น่าพิศวงมหัศจรรย์อย่างประหลาดที่สุดที่โลกเคยรู้จัก” ท่านผู้ที่กล่าวถ้อยคำนี้ก็คือ นโปเลียน ฮิล (Napoleon Hill) ท่านผู้นี้เคยเป็นที่ปรึกษาแก่ประธานาธิบดีของสหรัฐถึง 2 ท่านด้วยกัน เป็นผู้ที่ได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ของท่านคือ แอนดรู คาร์เนกี (Andrew Carnegie) ซึ่งเป็นผู้สอนคนให้รู้วิธีที่จะมั่งคั่งร่ำรวยและสานความฝันให้เป็นความ จริง มีบุคคลสำคัญ บุคคลที่ยิ่งใหญ่ทั่วโลกได้ขอบคุณเขา ช่วยพวกเขาได้วิธีคิดที่พัฒนาศักยภาพเขาให้ร่ำรวยได้อย่างสมความปรารถนา ท่านยังได้ช่วยบุคคลเหล่านี้ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันกับ วู๊ดโรว์ วิลสัน (อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ) จอร์จ อีสท์แมน (ผู้ก่อตั้งบริษัทโกดัก) และมีผู้อื่นอีกมากที่ได้ประสบความสำเร็จจากคำสอนของท่าน
การจินตนาการเป็นพลังอำนาจที่สามารถนำพาท่านไปพบเห็นสถานที่หรือสิ่งต่าง ๆ ที่ท่านยังไม่เคยเห็นและยังไม่เคยไปมาก่อนเลย
เฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford) มีความไว้วางใจในเรื่อง การจินตนาการและความเชื่อ และ วอลท์ ดิสนี่ย์ (Walt Disney) กล่าวว่า ถ้าเขาไม่ได้เห็นภาพ ดิสนี่แลนด์ ในจิตของเขา บุคคลอื่น ๆ ในโลกนี้ก็คงไม่ได้เห็นดิสนี่แลนด์ (Disneyland) ด้วยเช่นกัน แม้แต่ บิลล์ เกทส์ (Bill Gates) ก็ใช้ การจินตนาการ ต่อสินค้าที่เขาผลิตขึ้นมา บุคคลที่ประสบความสำเร็จส่วนมากแล้วล้วนมีจินตนาการที่แจ่มชัดทำให้ความฝัน ของเขาเป็นความจริงขึ้นมาได้อย่างอัศจรรย์
จักรวาลจะช่วยให้ท่านได้รับประสบการณ์ดังจินตนาการของท่านไม่ว่าสิ่งนั้น ๆ จะเป็นอะไร
ดังคำปราชญ์กล่าวไว้ว่า “บุคคลใดคิดเช่นใด ก็จะได้และเป็นเช่นนั้น” ชีวิตของเรามักจะเป็นไปตามจิตที่คิด หรือเป็นไปตามจิตที่สร้างภาพขึ้นให้เห็นวิธีดำเนินชีวิต การเรียน การทำงานหรือการทำธุรกิจ ซึ่งจะเป็นไปตามความคิดหรือจินตนาการของเราทั้งสิ้น
ประสบการณ์จากความคิดของท่านเองจะเป็นเครื่องชี้บอกว่า สิ่งใดที่ควรจะเลือกรับไว้ และสิ่งใดที่ควรจะละเว้นและขจัดตัดออกไป ท่านรู้ได้ด้วยตัวของท่านเอง ตามความเป็นจริงแล้ว ในอดีตที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาด ความสูญเสีย ความผิดหวัง และความล้มเหลว ล้วนแล้วตัวของเราเองเป็นผู้เลือกรับเลือกทำและเลือกมีเองทั้งสิ้น เราจะไปโทษใครไม่ได้ ตรงกันข้าม อดีตที่ท่านสมหวัง ประสบความสำเร็จ ก็เป็นเพราะท่านเลือกเองทั้งสิ้นด้วยเช่นกัน
ความคิด ภาพนิมิตรและความฝันของท่าน ไม่ว่าจะเป็นอะไรหรือสิ่งใด ๆ พอจะเป็นการพยากรณ์ได้ว่า ท่านจะมี จะได้ จะเป็น สักวันหนึ่งในอนาคตอย่างแน่นอน พฤติกรรมของความคิด และการกระทำของท่าน ในปัจจุบัน เป็นสิ่งบ่งบอกถึงสิ่งที่ท่านจะประสบในอนาตตอย่างแน่นอน
มีหลายสิ่งมากมายที่มีอิทธิพลต่อความคิดและการจินตนาการของท่าน - ความกลัวในอดีต ความประหม่าตื่นเต้น การขาดความรู้ความเข้าใจชีวิตของตนเองและผู้อื่น ขาดการตั้งเป้าหมายในชีวิต ต่อไปนี้ ให้ท่านปรับเปลี่ยนความคิด ปรับเปลี่ยนจินตนาการ ปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต โดยหยุดพฤติกรรมใด ๆ ที่ทำให้ผิดพลาด ทำให้ผิดหวัง ทำให้ล้มเหลว และทำให้สูญเสีย มาสร้างจินตนาการ การดำเนินชีวิตเสียใหม่ สลัดทิ้งพฤติกรรมเก่า ๆ ที่ล้วนแต่ไม่ดีทั้งหลายให้หมดสิ้นไป เริ่มคิดใหม่ คิดบวก คิดดี คิดสร้างสรรค์ คิดพัฒนาตนให้เป็นผู้รักความเจริญก้าวหน้า มุ่งทำงานหรือธุรกิจที่ตนเองชอบและรัก ด้วยความขยันหมั่นเพียร ด้วยความอดทน ก้าวไปข้างหน้าโดยไม่หยุด ทำตามแผนการณ์หรือแผนงานของเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ต้องก้าวไปให้ถึงหลักชัยแห่งความสำเร็จให้ได้ โดยปราศจากความย่อท้อ การผลัดวันประกันพรุ่ง โดยคิดถึงด้วยความขยันหมั่นเพียร ด้วยความอดทน ก้าวไปข้างหน้าโดยไม่หยุด ทำตามแผนการณ์หรือแผนงานของเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ต้องก้าวไปให้ถึงหลักชัยแห่งความสำเร็จให้ได้ โดยปราศจากความย่อท้อ ไม่ผลัดวันประกันพรุ่งอีกต่อไป
ที่มา : hypnoticquality.com